มะเร็งปากมดลูก
มะเร็งปากมดลูก
แม้มะเร็งเต้านมพบบ่อยกว่ามะเร็งปากมดลูกในผู้หญิงไทย แต่กลับพบว่า มะเร็งปากมดลูก คร่าชีวิตสาวไทยมากกว่า และจัดเป็นอันดับ 1 เพราะเสียชีวิตเฉลี่ยวันละ 12 คน
สาเหตุของมะเร็งปากมดลูก
ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่พบว่าเกี่ยวข้องกับการอักเสบเรื้อรังของปากมดลูก จากการติดเชื้อไวรัส HPV
- HPV ไวรัส เป็นสาเหตุหลัก โดยมีช่องทางการแพร่หลักคือ เพศสัมพันธ์
- HPV สายพันธุ์ที่มีความรุนแรงมาก ที่เป็นต้นเหตุของมะเร็งปากมดลูกถึง70% เกิดจาก HPV 16 และ 18 ส่วนสายพันธุ์อื่น ๆ ที่อาจก่อให้เกิดมะเร็งได้คือ สายพันธุ์ 33, 35, 39, 40, 43, 45, 51-56, 58
- 90% ของหูดหงอนไก่ เกิดจากสายพันธุ์ HPV 6 และ 11
- โชคดีที่ ปัจจุบันมีวัคซีน HPV แล้ว โดย วัคซีน HPV มี 2 ชนิดคือ วัคซีนชนิด 4 สายพันธุ์ (6, 11, 16, 18) และ 2 สายพันธุ์ (16, 18) จะเห็นว่าครอบคลุมโรคมะเร็ง และหูดหงอนไก่ได้
- ฉีดวัคซีนเอชพีวีเข็มแรกให้กับเด็กหญิงและเด็กชายวัย 9-14 ขวบ ก็สามารถป้องกันการติดเชื้อได้มากกว่า 90%
อาการของมะเร็งปากมดลูก
- ในระยะเริ่มแรกหรือในระยะก่อนเป็นมะเร็งผู้ป่วยจะไม่มีอาการแสดง
- เมื่อเริ่มเป็นมากขึ้นหรือมะเร็งลุกลามมากขึ้นจะพบว่ามีอาการเลือดออกผิดปกติจากช่องคลอด
- ในระยะหลังเมื่อมะเร็งลุกลามไปมากแล้วหรือลุกลามไปยังอวัยวะอื่น ๆ ในบริเวณใกล้เคียง อาจทำให้ผู้ป่วยมีอาการปวดท้องน้อย, อาจปวดหลัง ปวดก้นกบ
หรือปวดหลังร้าวลงขา หากโรคไปกดทับเส้นประสาท,
อาจขาบวม หากโรคลุกลามไปกดทับท่อน้ำเหลืองในอุ้งเชิงกรานหรือทำให้ท่อน้ำเหลืองเหล่านั้นอุดตัน,
อาจมีปัสสาวะเป็นเลือด หรืออุจจาระเป็นเลือดหากโรคลุกลามเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะหรือลำไส้ใหญ่
และอาจมีปัสสาวะผิดปกติ หรือเกิดภาวะไตวายเฉียบพลัน หากโรคลุกลามไปกดทับท่อไต (ทางเดินปัสสาวะถูกอุดกั้นจากก้อนมะเร็ง)
ตรวจคัดกรอง
(ร่วมการได้รับวัคซีน)...ป้องกันได้ดีที่สุด
- วิธีแปปเสมียร์ (Pap smear)
- วิธีตินเพร็พ (ThinPrep)
- วิธีตรวจหาเชื้อไวรัสเอชพีวี (HPV DNA Test) ซึ่งมีความไวในการตรวจพบมะเร็งปากมดลูกระยะเริ่มต้นได้ถึง 99-100 %
อัพเดต: 31 ก.ค. 60 - 23:03
แม้มะเร็งเต้านมพบบ่อยกว่ามะเร็งปากมดลูกในผู้หญิงไทย แต่กลับพบว่า มะเร็งปากมดลูก คร่าชีวิตสาวไทยมากกว่า และจัดเป็นอันดับ 1 เพราะเสียชีวิตเฉลี่ยวันละ 12 คน
สาเหตุของมะเร็งปากมดลูก
ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่พบว่าเกี่ยวข้องกับการอักเสบเรื้อรังของปากมดลูก จากการติดเชื้อไวรัส HPV
- HPV ไวรัส เป็นสาเหตุหลัก โดยมีช่องทางการแพร่หลักคือ เพศสัมพันธ์
- HPV สายพันธุ์ที่มีความรุนแรงมาก ที่เป็นต้นเหตุของมะเร็งปากมดลูกถึง70% เกิดจาก HPV 16 และ 18 ส่วนสายพันธุ์อื่น ๆ ที่อาจก่อให้เกิดมะเร็งได้คือ สายพันธุ์ 33, 35, 39, 40, 43, 45, 51-56, 58
- 90% ของหูดหงอนไก่ เกิดจากสายพันธุ์ HPV 6 และ 11
- โชคดีที่ ปัจจุบันมีวัคซีน HPV แล้ว โดย วัคซีน HPV มี 2 ชนิดคือ วัคซีนชนิด 4 สายพันธุ์ (6, 11, 16, 18) และ 2 สายพันธุ์ (16, 18) จะเห็นว่าครอบคลุมโรคมะเร็ง และหูดหงอนไก่ได้
- ฉีดวัคซีนเอชพีวีเข็มแรกให้กับเด็กหญิงและเด็กชายวัย 9-14 ขวบ ก็สามารถป้องกันการติดเชื้อได้มากกว่า 90%
อาการของมะเร็งปากมดลูก
- ในระยะเริ่มแรกหรือในระยะก่อนเป็นมะเร็งผู้ป่วยจะไม่มีอาการแสดง
- เมื่อเริ่มเป็นมากขึ้นหรือมะเร็งลุกลามมากขึ้นจะพบว่ามีอาการเลือดออกผิดปกติจากช่องคลอด
- ในระยะหลังเมื่อมะเร็งลุกลามไปมากแล้วหรือลุกลามไปยังอวัยวะอื่น ๆ ในบริเวณใกล้เคียง อาจทำให้ผู้ป่วยมีอาการปวดท้องน้อย, อาจปวดหลัง ปวดก้นกบ
หรือปวดหลังร้าวลงขา หากโรคไปกดทับเส้นประสาท,
อาจขาบวม หากโรคลุกลามไปกดทับท่อน้ำเหลืองในอุ้งเชิงกรานหรือทำให้ท่อน้ำเหลืองเหล่านั้นอุดตัน,
อาจมีปัสสาวะเป็นเลือด หรืออุจจาระเป็นเลือดหากโรคลุกลามเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะหรือลำไส้ใหญ่
และอาจมีปัสสาวะผิดปกติ หรือเกิดภาวะไตวายเฉียบพลัน หากโรคลุกลามไปกดทับท่อไต (ทางเดินปัสสาวะถูกอุดกั้นจากก้อนมะเร็ง)
ตรวจคัดกรอง
(ร่วมการได้รับวัคซีน)...ป้องกันได้ดีที่สุด
- วิธีแปปเสมียร์ (Pap smear)
- วิธีตินเพร็พ (ThinPrep)
- วิธีตรวจหาเชื้อไวรัสเอชพีวี (HPV DNA Test) ซึ่งมีความไวในการตรวจพบมะเร็งปากมดลูกระยะเริ่มต้นได้ถึง 99-100 %
อัพเดต: 31 ก.ค. 60 - 23:03